ข่าวสาร

### เมื่อโรคขี้เกียจมาเยือน: รู้หรือไม่ว่ามันคือโรคบรูเซลโลซิส? ลองจินตนาการถึงชีวิตของชายผู้หนึ่งที่ทำงานเชือดแพะมานานกว่า 30 ปี วันๆ ต้องอยู่กับมีดและเลือด แม้จะมีทักษะในงานนี้ แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้น ทำให้ต้องตั้งคำถามว่า “ฉันแก่แล้วหรือยัง?” แม้จะพักผ่อนมากขึ้น แต่ความอ่อนเพลียกลับยิ่งเพิ่มขึ้น พร้อมกับไข้ที่มาเป็นระยะๆ และอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อจนทำให้เขาต้องไปหาหมอ หลังจากการตรวจอย่างละเอียด หมอก็ได้ทราบว่าเขามีอาการของโรคที่น่าตกใจ นั่นคือ 'โรคขี้เกียจ' หรือทางการแพทย์เรียกว่า **โรคบรูเซลโลซิส** (Brucellosis) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบรูเซลลา (Brucella) ซึ่งสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ โดยเฉพาะจากแพะที่เขาทำงานด้วยทุกวัน ### สาเหตุและการติดเชื้อ เชื้อโรคนี้จะซ่อนตัวอยู่ในเลือด เนื้อเยื่อ น้ำนม หรือสารคัดหลั่งของสัตว์ที่ติดเชื้อ ดังนั้นเมื่อมีการสัมผัสเชื้อเหล่านี้ผ่านทางบาดแผลที่มือ หรือแม้แต่สูดดมฝุ่นเชื้อจากการชำแหละสัตว์ ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายๆ อาการของโรคนี้เริ่มต้นด้วยการมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลียง่าย แต่เมื่อปล่อยไว้นาน อาจเกิดอาการที่รุนแรงกว่าเดิม เช่น ไข้ที่ขึ้นๆ ลงๆ ปวดข้อ เหงื่อออกตอนนอน และบางคนถึงขั้นเป็นซึมเศร้า ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันลำบาก ### โรคขี้เกียจจากไหน? หลายคนอาจสงสัยว่าเพราะอะไรถึงเรียกว่าโรคขี้เกียจ อาการอ่อนเพลียที่รุนแรงจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนไม่มีแรง และทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ แต่แท้จริงแล้วมันเกิดจากเชื้อที่เข้ามารบกวนระบบภูมิคุ้มกันและสามารถทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายมีปัญหา ### วิธีการป้องกัน ผู้ที่มีอาชีพใกล้ชิดกับสัตว์ เช่น สัตวแพทย์ คนงานโรงฆ่าสัตว์ หรือผู้เลี้ยงสัตว์ ควรใส่ถุงมือและชุดที่ปกปิดอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือดหรือรกโดยตรง และควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ การรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงให้สุกและนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ยังช่วยลดความเสี่ยงได้ ในประเทศไทย โรคบรูเซลโลซิสไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะมีการพบผู้ป่วยในพื้นที่ชนบทที่มีฟาร์มแพะและวัวอยู่มาก การวินิจฉัยทำได้โดยการเจาะเลือดเพื่อตรวจแอนติบอดีหรือเพาะเชื้อ หากพบว่าติดเชื้อจะต้องทำการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะนานถึง 6 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น ### เคล็ดลับสำหรับคนทำงานใกล้ชิดสัตว์ หากคุณทำงานใกล้ชิดกับสัตว์และพบว่าตัวเองมีอาการไม่สบาย เช่น ไข้เรื้อรังหรืออ่อนเพลีย อย่าละเลย! ควรไปพบแพทย์และบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของคุณให้ชัดเจน อย่าปล่อยให้ 'โรคขี้เกียจ' มาทำให้ชีวิตคุณยุ่งเหยิง สุขภาพสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ หมั่นดูแลตัวเองและหากรู้สึกไม่สบายใจหรือมีอาการผิดปกติ อย่ารอช้า รีบปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีในชีวิตค่ะ!