ข่าวสาร

เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ หรือสารวัตรจ๊อบ อายุ 33 ปี นักบิน (สบ2), ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย หรือผู้กองเอก อายุ 34 ปี นักบิน (สบ1) และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย อายุ 55 ปี รอง สว.(อก.) ช่างอากาศยาน เสียชีวิตรวม 3 นาย เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม อายุ 37 ปี หรือ ผู้กองเบนซ์ โพสต์ข้อความ ในเพจ “Capt.Benz” ซึ่งเป็นแชตสุดท้ายของ สารวัตรจ๊อบ ที่พูดคุยกับเพื่อนโดยเป็นบทสนทนาลักษณะตัดพ้อว่า เครื่องไม่พร้อมบิน ไม่อยากให้ใครรู้จริงๆ เครื่องเราแทบบินไม่ได้ ระบุว่า โคตรเจ็บปวด น้องนักเรียนนายร้อยตำรวจคนนึง ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น (รุ่น 68) กับน้องนักบินตำรวจทั้งสองคนที่ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันก่อน เอาแชตของน้องจ๊อบ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ หนึ่งในนักบินที่ประสบเหตุมาโพสต์ แล้วคอมเมนต์ว่า ‘ผมเล่าไปก็คงไม่มีใครเชื่อเพราะผมไม่ใช่นักบิน แต่ความเห็นจากนักบินซึ่งเป็นเพื่อนของผมที่ตายไป มันสื่อสารให้ผมเข้าใจอย่างนั้น

คืนก่อนที่เอกกับจ็อบตาย ทั้งสองคนเล่าให้ผมฟังว่าเครื่องบินที่มันขับนั้นอันตรายและเสี่ยงกับชีวิตของคนที่ขับขี่ ซึ่งผมไม่ได้รู้เรื่องเฉพาะทางของเครื่องบินเลยแต่เข้าใจได้ว่าสิ่งที่ทั้งสองคนสื่อและเสนอความเห็นมันคงเสี่ยงตายทุกครั้งที่ขึ้นบิน ไม่ใช่เพราะความสามารถของนักบินที่อ่อนด้อยแต่ความเสี่ยงของตัวเครื่องบินประจำตัวเขานั่นเอง

ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงจากที่มันเล่าให้ผมฟัง ทั้งสองคนก็จากไปจากสาเหตุที่ทั้งสองกังวลมาโดยตลอด 

ใจของนักบินต้องกล้าหาญแค่ไหน แม้รู้ว่าจะเสี่ยงตายได้ทุกครั้งที่ต้องขึ้นบิน แต่ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถทุกภารกิจ เจ็บใจแทนเพื่อนทั้งสองจริงๆ

ผมไม่ใช่นักบิน ผมเป็นเพื่อนนักบิน และก็ไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะเหตุที่ป้องกันได้แบบนี้อีก’ 

ผู้กองเบนซ์ยังได้ระบุข้อความต่ออีกว่า มุก “นักบินเก่าเครื่องบินใหม่ นักบินใหม่เครื่องบินเก่า” เคยเป็นมุกในวงเหล้าตอนผมรับราชการเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยอยู่ที่กองบินตำรวจ เรารู้เห็นปัญหานี้กันมานาน และรู้ดีว่านักบินใหม่ (นักบิน สบ 1) ทั้งหลายต้องเสี่ยงชีวิตเพียงใดกว่าจะได้เปลี่ยนประเภทเครื่องบิน

เครื่อง Bell-212 ตำรวจ ใช้มาตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม แม้จะได้รับการบำรุงรักษาตามวงรอบ แต่ผลงานการตกของมันก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า “นักบินเก่าเครื่องบินใหม่ นักบินใหม่เครื่องบินเก่า” ไม่ใช่แค่มุกพูดเล่นในวงเหล้า แต่มันคือความจริงที่นักบินตำรวจ โดยเฉพาะพวกที่เข้าไปใหม่ ต้องทำใจทุกครั้งที่บิน และครอบครัวของเขา (ถ้ารู้) ด้วยเช่นกัน

ขอวิงวอนให้ผู้มีอำนาจเห็นความสำคัญของภารกิจการบินในราชการตำรวจมากกว่านี้ และจัดสรรงบประมา มาให้ถูกต้องเหมาะสมซักที ไม่ใช่เอะอะอะไรก็บอกไม่จำเป็น แล้วก็เอาไปลงกับเรื่องเหี้ยๆ ให้ประชาชนด่า

เอาไปลงกับคนเหี้ยๆ ให้ตึกถล่ม เอาไปลงกับโครงการโง่ๆ ที่ทำให้ประเทศชาติไม่ไปไหน