ข่าวสาร

การตกแต่งและจัดวางของในบ้านถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศดี ๆ และความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็มีบางสิ่งที่แม้จะพบเห็นได้ทั่วไปตามบ้านของคนไทย กลับกลายเป็นสิ่งที่นักตกแต่งภายในมองว่า "น่าเกลียด" และไม่ควรปล่อยให้ปรากฏอยู่ เพราะมันส่งผลเสียต่อภาพรวมของพื้นที่ใช้ชีวิต วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง 5 สิ่งเหล่านั้น ที่คุณอาจจะเคยเห็นหรือมีกันแทบทุกหลัง 1. โทรทัศน์ขนาดใหญ่ตั้งเด่นกลางห้อง โทรทัศน์ถูกมองว่าเป็นกล่องสีดำขนาดใหญ่ ที่ครอบงำสายตาและพื้นที่โดยรวมของห้องไปหมด หลายครั้งเฟอร์นิเจอร์จึงถูกจัดเรียงเพื่อหันหน้าเข้าหาทีวีจนทำให้การออกแบบดูไม่มีสมดุล นักออกแบบแนะนำว่าควรลดขนาดหรือซ่อนไม่ให้เด่นชัด เพื่อรักษาความสง่างามและความลงตัวของห้อง 2. ของสะสมหรือเครื่องประดับเยอะเกินไปจนรกตา หลายครอบครัวชอบสะสมของต่าง ๆ ทั้งตุ๊กตา ของเล่น หรือเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งถ้าวางเต็มโต๊ะ เต็มชั้น จะทำให้รู้สึกว่าบ้านดูรก ไม่โปรงโล่ง และเสียบุคลิกภาพ ความเรียบร้อย การเลือกโชว์เฉพาะไอเท็มเด็ดๆ เท่านั้นจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ได้มากกว่า 3. ผ้าม่านหนาทึบสีเข้มเกินไป ผ้าม่านหนาที่ปิดทึบแสงทั้งหมด ทำให้แสงธรรมชาติไม่สามารถเข้าสู่ตัวห้องได้ ส่งผลให้อารมณ์ในห้องดูหม่นหมอง ไม่สดใส การเลือกผ้าม่านโทนอ่อน หรือชนิดโปรงแสง จะช่วยเติมพลังชีวิตและเปิดรับธรรมชาติอย่างเหมาะสมกว่า 4. พรมเช็ดเท้าที่เปื้อนหรือเก่าจนน่าเบื่อ พรมเช็ดเท้าเป็นจุดแรกๆ ที่แขกจะเห็นเมื่อเข้าบ้าน หากพรมนี้เปื้อน คราบฝังแน่น หรือสีซีดจาง จะสร้างภาพลักษณ์แรกที่ไม่น่าประทับใจเลย ควรเปลี่ยนใหม่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความสะอาดและความสดใสแก่ผู้มาเยือน 5. เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มหรือวัสดุหยาบกระด้างมากเกินไป เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง สีเข้มหรือวัสดุหยาบ อาจทำให้รู้สึกว่าห้องนั้นหนัก ทึบตัน และไม่น่าสบายตา โดยเฉพาะถ้าไม่ได้จับคู่กับโทนอ่อนอื่นๆ เลือกใช้ไม้โทนอ่อน หรือตกแต้งด้วยวัสดุนุ่ม เช่นผ้าหรือเบาะ ช่วยเพิ่มสัมผัสอบอุ่น สบายใจได้มากขึ้น สุดท้ายแล้ว บ้านคือสถานที่พักผ่อนใจ ดังนั้นการกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกจากพื้นที่อยู่อาศัย จะช่วยคืนความสุข ความสง่างาม และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง อย่าลืมนะครับว่า การเลือกอะไรเข้าไปไว้ในบ้าน ต้องคิดถึงทั้งฟังก์ชั่น ความเหมาะสม รวมถึงเรื่องรูปลักษณ์ที่จะส่งผลต่อจิตใจเราเองด้วยครับ!